บก.อส.จ.เชียงราย ร่วมจับกุมบุคคลที่แอบอ้างเป็นทีมงานท่านชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียกรับค่าคุ้มครองจากสถานบริการในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ร้านละ 300,000 - 400,000 บาท

 

 

วันที่ 7 ก.พ. 2567 เวลา 17.30 น.

 

 

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย / ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงราย , นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย / รองผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงราย , นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย , พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย และ พ.ต.อ.พัสกร ธวัชเชียงกุล ผกก.กก.สส.ภ.จว.ชร. ได้สั่งการให้ ที่ทำการปกครองจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เข้าตรวจสอบบุคคลที่แอบอ้างผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย มาทำการเรียกรับผลประโยชน์จากสถานบริการ ประเภทคาราโอเกะ 

 

สืบเนื่องจากมีการประสานงานจากคณะทำงานฯ ท่านชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นทีมงานท่านชาดาฯ มาเรียกรับผลประโยชน์จากสถานบริการประเภท คาราโอเกะ เพื่อเป็นค่าคุ้มครองไม่ให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง (ส่วนกลาง) เข้ามาจับกุม ในอัตรา 300,000 - 400,000 /ร้าน

ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าผู้แอบอ้างได้มีการกล่าวอ้างถึงผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยจริง โดยกล่าวอ้างว่า ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ส่งให้ผู้แอบอ้างมาเรียกค่าคุ้มครองจากสถานบริการหรือธุรกิจอื่นได้จะให้ดูแลเพิ่มเติมก็ได้ โดยเรียกอัตราค่าคุ้มครองตามขนาดของร้าน ในอัตรา 300,000 - 400,000 บาทต่อร้าน และหากร้านไหนจ่าย จะไม่ให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง (ส่วนกลาง) เข้ามาจับ แต่หากไม่จ่าย ให้ชุดปฏิบัติการฯ มาดำเนินการจับกุม และมีการกล่าวอ้างถึงผู้ว่าราชการจังหวัด หากคุยไม่ได้ เดี๋ยวเป้าหมายจะคุยให้ และจะส่งรายชื่อสถานบริการที่จ่ายค่าคุ้มครอง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อไม่ให้ชุดในพื้นที่เข้ามาจับ

 

เจ้าหน้าที่จึงวางแผนโดยให้สายลับเข้าทำการล่อจ่ายเงินค่าคุ้มครองให้แก่บุคคลเป้าหมายเป็นค่ามัดจำ จำนวน 100,000 บาท โดยมีการนัดหมายเพื่อจ่ายเงินกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงราย ซึ่งเมื่อเป้าหมายมาถึง และสายลับได้จ่ายเงินให้กับบุคคลผู้แอบอ้างแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบบุคคลผู้แอบ และจากการเข้าตรวจสอบพบธนบัตรที่มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ในตัวบุคคลผู้แอบอ้างจำนวน 100,000 บาท จึงแจ้งข้อกล่าวหาและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

ทั้งนี้ คณะทำงานท่านชาดาฯ ยืนยันว่าไม่มีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย คนใดที่จะเรียกรับผลประโยชน์จากสถานบริการ หากมีบุคคลใดไปแอบอ้างคือมีการหลอกลวงทั้งสิ้น หากพบเห็นสามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย หรือสายด่วน 1567 ได้ตลอด